ทุ่งโปรงทอง

ทุ่งโปรงทอง คือบริเวณป่าชายเลนริมปากแม่น้ำประแส ซึ่งบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยต้นโปรงที่ขึ้นเรียงรายกันนับพันนับหมื่นต้น มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะยามเช้าตรู่และยามเย็นที่มีแสงพระอาทิตย์อ่อน ๆ ฉาบทาลงมาที่ทุ่งแห่งนี้ สะท้อนใบของต้นโปรงให้กลายเป็นสีเหลืองทองอย่างสวยงาม ที่นี่จึงได้ชื่อเรียกว่าทุ่งโปรงทอง โดยจะมีทางเดินไม้ระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ลัดเลาะไปตามทุ่งโปรงทอง ให้นักท่องเที่ยวได้เดินถ่ายภาพกับทุ่งแห่งนี้กันอย่างใกล้ชิด โดยเส้นทางจะไปสิ้นสุดบริเวณอนุสรณ์เรือรบหลวงประแส

ป่าโกงกาง จะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อมาจากป่าชายเลน ช่วงนี้ต้นโกงกางซึ่งมีความสูงพอสมควรจะปกคลุมทางเดินให้ร่มรื่น คล้ายกับเป็นอุโมงค์ต้นโกงกาง ก็จะร่มรื่น ไม่ร้อน ทุ่งโปรงทอง เป็นไฮไลท์สำคัญ โดยจะมีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปในมุมกว้าง และยังมีทางเดินที่ทอดผ่านบริเวณป่าทุ่งโปรง ทำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกับทุ่งสีทองนี้อย่างใกล้ชิด และยังมีทางเดินทอดยาวไปยังริมทะเลประแส ซึ่งมีศาลาชมวิวให้ได้ไปนั่งชมวิวทะเลชิล ๆ กันอีกด้วย บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติทุ่งโปรงทองไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าไป เพราะฉะนั้นควรทานให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปเที่ยวชม

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานทอดยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดที่ทะเลประแสซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือรบหลวงประแส หากเดินด้วยเท้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะนิยมเดินชมแค่บริเวณทุ่งโปรงทองซึ่งใช้เวลาเดินเข้าไปชมเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือ ช่วงเช้า และช่วงบ่ายแก่ๆ เนื่องจาก บรรยากาศไม่ร้อนมาก และเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดมาส่องกระทบใบโปรงทอง เป็นสีเหลืองอร่าม บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ ถือเป็นพื้นที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความสมบูรณ์ของป่าชายเลน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ทั้งต้นแสม ตะบูนดำ ลำพูน โกงกาง โปรงแดง โปรงทอง เป็นที่อยู่อาศัย แหล่งหลบภัย และเป็นแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำที่ชอบอาศัยอยู่ในบริเวณป่าชายเลน เช่น กุ้ง หอย ปูแสม ปูก้ามดาบ ปลาตีน



สะพานไม้ได้ลัดเลาะไปตามป่าโกงกางประมาณ 200 เมตร จะทะลุออกมาจนเจอ ทุ่งโปรงทอง ที่เต็มไปด้วยต้นโปรงขึ้นเบียดกันแน่น ใบโปรงสีเขียวเหลืองอ่อนที่แทรกออกเป็นพุ่มแน่นจนแทบไม่เห็นพื้นด้านล่าง เมื่อใบถูกแสงแดดจะ สะท้อนให้เห็นเป็นสีทองอร่าม เต็มสะพรั่งทั่วท้องทุ่ง ตรงจุดชมวิวกลางทุ่งต้นโปรงนี้ สามารถเห็นวิวได้รอบทิศ เสมือนถูกโอบด้วย ทุ่งสีเหลืองทอง ตัดด้วยขอบสีเขียวเข้มของใบโกงกางที่เป็นพุ่มล้อมอยู่โดยรอบ



เมื่อเดินต่อไประหว่างทางพบพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ติดป้ายบอกไว้ให้ได้ศึกษาเรียนรู้ อาทิ ต้นลำพู ต้นแสม ต้นโกงกาง ต้นตะบูนดำ โปรงแดง โปรงทอง ฯลฯ จากนั้นจะถึงยังศาลเจ้าพ่อแสมผู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือมาแต่โบราณ นักท่องเที่ยวเข้ามากราบสักการะได้ เมื่อเดินไปยังสุดทางที่ศาลาพักชมวิว มองออกไปเห็นท้องทะเลว่างเปล่ายาวไกลสุดลูกหูลูกตา ถือว่าธรรมชาติช่วยผ่อนคลายได้ดี