ท่านสามารถดูข้อมูลการลงทะเบียนได้ในหน้านี้ (ข้อมูลส่วนตัวของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับ ยกเว้ยรายชื่อหน่วยงาน และชื่อจริงของท่าน ตามกฎหมาย PDPA)
หากมีข้อสงสัย ติดต่อ นางนงค์นุช อุทัยศรี โทร 08-4562-6099
ภาระงานของครู: ครูมีภาระงานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนโดยตรง เช่น งานธุรการ งานพัสดุ งานการเงินและบัญชี ซึ่งทำให้เสียเวลาในการสอนและพัฒนาผู้เรียน
งบประมาณไม่เพียงพอ: การจัดการศึกษายังขาดแคลนงบประมาณ เช่น งบประมาณสำหรับดูแลเด็กในโครงการ Zero Drop Out
ขาดการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน/ระดับการศึกษา: การประสานงานและการส่งต่อเด็กระหว่างหน่วยงานและระดับชั้นต่างๆ ยังขาดการเชื่อมโยง ทำให้เด็กพิเศษที่จบประถมไม่สามารถไปต่อมัธยมได้ หรือเด็กต้องกลับมาเรียนซ้ำ
เด็กนอกระบบการศึกษา: จังหวัดตราดมีอัตราเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา (เด็กตกหล่น) สูงถึง 8.5% (เทียบกับค่าเฉลี่ยประเทศที่ 5.2%)
ความไม่สนใจในการเรียน: เด็กบางคนไม่อยากเรียนหรือขาดความสนใจ ทำให้การเรียนรู้ไม่เป็นผล
แรงงานขาดทักษะ/คนไม่ตรงความต้องการ: การพัฒนาคนไม่ตรงกับความต้องการของสังคมและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแรงงานฝีมือด้านช่างและทักษะดิจิทัล
หลักสูตรไม่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น: หลักสูตรของ สพฐ. ไม่เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดตราด ทำให้ต้องจัดทำคู่มือเอง
คุณภาพชีวิตครู: ครูยังขาดคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะเรื่องเงินเดือน
ขาดผู้เรียนในบางสาขาอาชีพ: แม้จะมีหลักสูตรด้านช่างฝีมือ แต่มีผู้สนใจเข้าน้อย เนื่องจากคนในพื้นที่มักมีกิจการส่วนตัวหรือประกอบอาชีพเกษตร/ท่องเที่ยว
ข้อจํากัดในการเรียนรู้สำหรับสามเณร: บริบททางสังคมและพระธรรมวินัยทำให้สามเณรมีข้อจำกัดในการเข้าถึงการเรียนรู้ด้านอาชีพบางอย่าง
ผู้ปกครองไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กพิเศษ: ผู้ปกครองบางส่วนยังคิดว่าเด็กพิการไม่สามารถพัฒนาได้ และมองว่าการดูแลเป็นภาระ
ลดภาระและพัฒนาครู:
ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอน (เช่น งานธุรการ, พัสดุ, การเงินและบัญชี) เพื่อให้ครูมีเวลาสอนและพัฒนานักเรียนมากขึ้น
พัฒนาคุณภาพชีวิตครู โดยเฉพาะการปรับบัญชีเงินเดือน
งบประมาณและการสนับสนุน:
เพิ่มงบประมาณให้เพียงพอและสนับสนุนงบประมาณให้ลงสู่เด็กโดยตรง (เช่น โครงการ Zero Drop Out)
การจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นและไร้รอยต่อ:
ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นหลากหลายรูปแบบ เช่น การเรียนรู้ตลอดชีวิต, การเรียนออนไลน์, การนัดเรียนนอกสถานที่, การส่งงานผ่านสมาร์ทโฟน
มีระบบ Credit Bank (ธนาคารหน่วยกิต) เพื่อให้เด็กสามารถสะสมและเทียบโอนหน่วยกิตจากวิชาชีพหรือประสบการณ์ได้
ลดจำนวนเด็กตกหล่นและออกกลางคันจากระบบการศึกษา
ให้เด็กได้วุฒิการศึกษาที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในอนาคต
หลักสูตรที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการ:
ปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทของจังหวัดตราด (เช่น ด้านการเกษตร, การท่องเที่ยว, ทะเล) และความสนใจของผู้เรียน
เน้นการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต เช่น ดิจิทัล, วิทยาศาสตร์, นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดทักษะ
ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงทักษะอาชีพ และการคิดนอกกรอบ
เพิ่มหลักสูตรจริยธรรมและคุณธรรม
จัดทำหลักสูตรเฉพาะบุคคล (IEP) สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
การประสานงานและเครือข่ายความร่วมมือ:
บูรณาการการจัดการศึกษาระหว่างหน่วยงานและระดับชั้นต่างๆ (ประถม, มัธยม, อาชีวะ, กศน.) ให้มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น
สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งกับภาคีต่างๆ เช่น ชุมชน, วัด, ผู้ประกอบการ, หน่วยงานด้านสังคมและสาธารณสุข
การปรับปรุงระบบการศึกษา:
แก้ไขพระราชบัญญัติการศึกษาให้ทันสมัยและเอื้อต่อการจัดการศึกษาในปัจจุบัน
ลดนโยบายที่ไม่จำเป็นหรือเป็นภาระแก่ผู้ปฏิบัติงาน
ขาดการประสานงานและการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงาน/ระดับการศึกษา: การส่งต่อเด็กนักเรียนระหว่างหน่วยงานและระดับชั้นต่างๆ ยังขาดความเชื่อมโยง เช่น เด็กจบ ป.6 ไม่สามารถไปต่อ ม.1 ได้ทันที หรือเด็กพิเศษต้องกลับมาเรียนเตรียมความพร้อมที่ศูนย์การศึกษาพิเศษอีกครั้ง นอกจากนี้ หน่วยงานต่างๆ มักจะทำงานแยกกันตามบทบาท ทำให้ขาดการบูรณาการที่เข้มแข็ง
ความไม่สอดคล้องของหลักสูตรกับบริบทท้องถิ่นและความต้องการของตลาดแรงงาน: หลักสูตรของ สพฐ. ยังไม่เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดตราด ทำให้ต้องจัดทำคู่มือเอง นอกจากนี้ การพัฒนาคนยังไม่ตรงกับความต้องการของสังคมและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะแรงงานฝีมือด้านช่างและทักษะดิจิทัล เด็กส่วนใหญ่มักเรียนสายสามัญ ไม่สนใจสายอาชีพ ทั้งที่ตลาดแรงงานมีความต้องการ
ข้อจำกัดในการเข้าถึงการเรียนรู้บางรูปแบบ: สามเณรมีข้อจำกัดด้านบริบททางสังคมและพระธรรมวินัย ทำให้การเข้าถึงการเรียนรู้สายอาชีพหรือการฝึกประสบการณ์นอกวัดเป็นไปได้ยาก รวมถึงความเข้าใจของสังคมต่อบทบาทของสามเณรในการเรียนรู้นอกเหนือจากธรรมวินัย
ช่องว่างระหว่างนโยบายกับการปฏิบัติ: นโยบายการศึกษาที่ดีอาจไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ เนื่องจากขาดการลงมาทำความเข้าใจบริบทการทำงานของครูและข้อจำกัดต่างๆ
การขาดโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษในระบบการศึกษานอกระบบ: ยังไม่มีหลักสูตรเฉพาะสำหรับเด็กพิการในระบบการศึกษานอกระบบที่ชัดเจนในจังหวัดตราด (2:02:00)
วิทยาลัยเทคนิคตราด (อาชีวะ)
จัดการเรียนการสอนในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
มีระบบ Credit Bank (ธนาคารหน่วยกิต) นำวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพไปสอนเด็ก ม.4-6 ให้สะสมหน่วยกิตเพื่อเทียบโอนเข้า ปวส. ได้เร็วขึ้น
จัดโครงการห้องเรียนอาชีพในโรงเรียนมัธยม เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และเลือกสายอาชีพ
จัดการศึกษาแบบทวิภาคี โดยเรียนคู่กับสถานประกอบการ รวมถึงหลักสูตรระยะสั้นเพื่อพัฒนาทักษะเฉพาะ (Up-skill/Re-skill) เช่น การท่องเที่ยว การโรงแรม คอมพิวเตอร์ สำหรับกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงสามเณร
สํานักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจําจังหวัดตราด (สกร.)
จัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาตนเอง และเพื่อคุณวุฒิให้เด็กด้อยโอกาส ผู้พลาดโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้ที่ออกนอกระบบ
ปรับรูปแบบการเรียนตามความต้องการของผู้เรียนอย่างยืดหยุ่น เช่น ใช้ดิจิทัลสำหรับวัยรุ่น ใช้สื่อกระดาษสำหรับผู้สูงอายุ หรือนัดเรียนตามความสะดวกของผู้ที่ทำงาน
มีการเทียบโอนมิติความรู้ความคิดและประสบการณ์จากการทำงาน
จัดหลักสูตรอาชีพระยะสั้น เช่น ทำขนม ให้กับผู้ที่ต้องการทักษะเสริม
มีศูนย์การเรียนรู้ในทุกตำบลที่เข้าถึงชุมชนและจัดการเรียนรู้ตามบริบท
สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จันทบุรี ตราด (สพม.)
นำแนวคิด Credit Bank มาใช้ แต่พบปัญหาในการติดตามเด็กที่ขาดความสนใจเรียน
ส่งเสริมโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้จัดการศึกษาได้เอง เช่น โรงเรียนเขาน้อยวิทยาคม ที่ให้นักเรียนขายของในโรงเรียนเพื่อเรียนรู้การใช้เงิน และปรับลดภาระนักเรียน เช่น การแต่งชุดลูกเสือ
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจําจังหวัดตราด
จัดการเรียนการสอนหลายรูปแบบ ทั้งในสถานศึกษา การปรับบ้านเป็นห้องเรียน การที่ครูไปสอนที่บ้าน
ส่งเสริมการเรียนรวมกับโรงเรียนปกติ โดยสนับสนุนสื่อและสิ่งอำนวยความสะดวก
มีการฝึกอาชีพและส่งต่อไปยังโรงเรียนเฉพาะความพิการหรือศูนย์พัฒนาฝีมือ
สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับ พม. และ สธ. เพื่อคัดกรองและพัฒนาเด็กพิการ
โรงเรียนวัดสุวรรณมงคล
ผสมผสานหลักสูตรพระพุทธศาสนา (นักธรรม บาลี) เข้ากับหลักสูตรสามัญศึกษาสำหรับสามเณร
รับดูแลสามเณรที่มีปัญหาจากต่างจังหวัด และจัดห้องเรียนที่เน้นทักษะและอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทของสามเณร
บ้านเรียน (Home School) ที่เกาะช้าง
จัดการเรียนรู้โดยผู้ปกครองที่ออกแบบหลักสูตรเฉพาะบุคคล และประยุกต์การเรียนรู้จากชีวิตประจำวัน
ศูนย์การเรียนรู้ตาลีมุดดิน (แหลมงอบ)
จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปฐมวัยถึง ป.6) โดยเน้นการเรียนรู้พื้นฐานที่เด็กสามารถแสดงศักยภาพได้ดี
สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตราด
จัดอบรมสัมมนาสำหรับผู้ประกอบการและทายาทธุรกิจ โดยเน้นทักษะด้านดิจิทัล นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดทักษะ
เสนอแนวคิดความร่วมมือแบบไตรภาคี (ประชาชน-ภาครัฐ-อุตสาหกรรม) เพื่อพัฒนาแรงงานฝีมือ
โดยรวมแล้ว จังหวัดตราดมีการดำเนินงานที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่แตกต่างกัน ทั้งการลดภาระงานของครู การจัดหลักสูตรที่ยืดหยุ่น การใช้เทคโนโลยี การเทียบโอนหน่วยกิต และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ แต่ก็ยังพบความท้าทายในเรื่องการขาดแคลนงบประมาณ การประสานงานที่ยังไม่สมบูรณ์ และความไม่สอดคล้องของหลักสูตรกับบริบทท้องถิ่น รวมถึงความไม่เข้าใจของผู้ปกครองในบางกรณี
1. หน่วยงานภาครัฐและสถานศึกษา:
วิทยาลัยเทคนิคตราด (อาชีวะ):
เน้นการสร้างโอกาสอาชีพ: จัดการเรียนการสอนแบบยืดหยุ่น (ในระบบ, นอกระบบ, ตามอัธยาศัย) มีระบบ Credit Bank เพื่อให้เด็กมัธยมสะสมหน่วยกิตเข้า ปวส. ได้เร็วขึ้น มีโครงการห้องเรียนอาชีพในโรงเรียนมัธยม และจัดการศึกษาทวิภาคีร่วมกับสถานประกอบการ รวมถึงหลักสูตรระยะสั้นเพื่อ Up-skill/Re-skill
ความท้าทาย: การประสานงานกับโรงเรียนมัธยมยังคงมีปัญหา และการติดตามเด็กที่เรียนออนไลน์ที่ขาดความสนใจ
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดตราด (สกร.):
เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการเข้าถึง: จัดการเรียนรู้ให้เด็กด้อยโอกาส ผู้พลาดโอกาส ผู้สูงอายุ ด้วยรูปแบบที่หลากหลาย (ดิจิทัล, กระดาษ, นัดเรียนตามสะดวก, ส่งงานผ่านสมาร์ทโฟน) มีการเทียบโอนประสบการณ์ และหลักสูตรอาชีพระยะสั้น
ความท้าทาย: ครูเป็นพนักงานราชการขาดความมั่นคง และมีภาระงานที่มาก
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จันทบุรี ตราด (สพม.):
สนับสนุนพื้นที่นวัตกรรม แต่เผชิญปัญหาการติดตาม: มี Credit Bank แต่ประสบปัญหาเด็กขาดความสนใจและขาดการติดตามอย่างใกล้ชิด สนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรม (เช่น เขาน้อยวิทยาคม) ให้ปรับหลักสูตรและกิจกรรมได้เอง เช่น การให้นักเรียนขายของในโรงเรียน หรือปรับลดภาระเรื่องชุดลูกเสือ
ความท้าทาย: โรงเรียนอื่นไม่กล้าทำตามโมเดลที่สำเร็จเพราะกลัว "ทำผิด"
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดตราด:
เน้นการจัดการเรียนรู้เฉพาะบุคคล: จัดการเรียนการสอนหลายรูปแบบ (ในสถานศึกษา, ปรับบ้านเป็นห้องเรียน, ครูไปสอนที่บ้าน, เรียนรวม) มีการฝึกอาชีพและส่งต่อให้โรงเรียนเฉพาะความพิการ บูรณาการกับ พม. และ สธ.
ความท้าทาย: ผู้ปกครองบางส่วนยังไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กพิการ และขาดหลักสูตรเฉพาะสำหรับเด็กพิการในระบบการศึกษานอกระบบของจังหวัดตราด
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตราด:
ภาพรวมเชิงนโยบาย: เห็นความสำคัญของการลดภาระครู ปรับ พ.ร.บ. การศึกษา ลดนโยบายที่ไม่จำเป็น สนับสนุนงบประมาณให้ถึงเด็กโดยตรง และการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง มีการขับเคลื่อนเรื่องเด็กตกหล่น (Zero Drop Out) โดยสร้างโมเดลหลักสูตรที่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่น (เช่น "ทะเลบ้านฉัน") และทำคู่มือของเขตเอง
ความท้าทาย: งบประมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับภารกิจ และการเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานยังไม่สมบูรณ์
2. หน่วยงานภาครัฐอื่นๆ/ภาคอุตสาหกรรม:
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตราด:
เน้นการพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม: จัดอบรมสัมมนาทายาทธุรกิจ/ผู้ประกอบการด้านดิจิทัล นวัตกรรม เทคโนโลยี มองว่าการศึกษาปัจจุบันพัฒนาคนไม่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน ต้องการหลักสูตรที่เน้นวิทยาศาสตร์ ดิจิทัล และทักษะอาชีพตั้งแต่เด็ก และสนับสนุนรูปแบบไตรภาคี (ประชาชน-รัฐ-อุตสาหกรรม) เพื่อสร้างแรงงานฝีมือ
ความท้าทาย: การขาดแคลนแรงงานฝีมือด้านช่าง เนื่องจากคนในพื้นที่มีกิจการส่วนตัวหรือประกอบอาชีพเกษตร/ท่องเที่ยว ทำให้ความสนใจเรียนสายอาชีพน้อย
3. ภาคประชาสังคม/ชุมชน/ผู้ปกครอง:
โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ วัดสุวรรณมงคล:
ผสมผสานศาสนาและสามัญ: ผสมผสานหลักสูตรพระพุทธศาสนาเข้ากับหลักสูตรสามัญศึกษาเพื่อให้สามเณรได้รับวุฒิการศึกษาตามปกติ พยายามจัดวิชาเสริม เช่น งานช่าง
ความท้าทาย: บริบททางสังคมและพระธรรมวินัยทำให้มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการฝึกอาชีพนอกวัด รวมถึงความเข้าใจของสังคมต่อบทบาทของสามเณรในการเรียนรู้อาชีพ
บ้านเรียน (Home School):
การศึกษาที่ปรับให้เข้ากับเด็กแต่ละคนสูงสุด: ผู้ปกครองเป็นผู้ออกแบบหลักสูตรเองอย่างเฉพาะบุคคล ประยุกต์การเรียนรู้จากชีวิตประจำวันให้สอดคล้องกับความสนใจและความสามารถของเด็ก
สรุป: ทุกภาคส่วนมีความเห็นตรงกันถึงความจำเป็นของการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นและไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเอง แต่ก็มีความแตกต่างในเชิงของ "วิธีการ" ที่ดำเนินการ "กลุ่มเป้าหมาย" ที่ให้ความสำคัญ และ "ความท้าทาย" ที่เผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงบประมาณ ภาระงานของครู การประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียนและผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับบริบทของจังหวัด.
วิทยาลัยเทคนิคตราด
การจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น: มีการจัดการเรียนการสอนทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
Credit Bank: นำรายวิชาปรับพื้นฐานวิชาชีพไปสอนเด็ก ม.4-6 ให้สามารถสะสมหน่วยกิตเพื่อเทียบโอนเข้าหลักสูตร ปวส. ได้เร็วขึ้น (จบภายใน 2 ปี)
โครงการห้องเรียนอาชีพในโรงเรียนมัธยม: จัดหลักสูตรระยะสั้นเพื่อให้นักเรียนมัธยมได้เรียนรู้และเลือกสายอาชีพ และนำวิชาที่เรียนไปเทียบโอนได้
ทวิภาคี: จัดการเรียนคู่กับสถานประกอบการ (เช่น โรงแรมที่เกาะช้าง/เกาะกูด) เพื่อให้เด็กได้ฝึกงานและได้รับค่าตอบแทน
หลักสูตรระยะสั้น (Up-skill/Re-skill): จัดอบรมทักษะเฉพาะ เช่น การท่องเที่ยว การโรงแรม คอมพิวเตอร์
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า: ครูออกไปสอนที่เกาะที่เด็กเดินทางมาเรียนลำบาก หรือจัดสอนออนไลน์ (แต่ยอมรับว่าออนไลน์ต้องมีการกำกับติดตาม)
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดตราด
กลุ่มเป้าหมาย: เด็กด้อยโอกาส เด็กพลาดโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้ที่ออกนอกระบบ
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น:
ใช้ดิจิทัล/สมาร์ทโฟนสำหรับวัยรุ่น และใช้สื่อกระดาษสำหรับผู้สูงอายุ
นัดเรียนตามความสะดวกของผู้เรียนที่ไม่สามารถมาเรียนตามเวลาปกติได้
อนุญาตให้ส่งงานทางสมาร์ทโฟน/ไลน์กลุ่ม/Google Form
การเทียบโอนมิติความรู้ความคิดและประสบการณ์: ผู้ที่ทำงานแล้วสามารถนำประสบการณ์มาเทียบโอนเพื่อผ่านคุณวุฒิได้เร็วขึ้น
มีศูนย์การเรียนรู้ในทุกตำบลเพื่อเข้าถึงชุมชนและจัดเรียนรู้ตามบริบทท้องถิ่น
หลักสูตรระยะสั้น: จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง เช่น การทำขนม เพื่อสร้างอาชีพเสริม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตราด
นโยบาย: เสนอปรับ พ.ร.บ. การศึกษาที่ใช้มา 20 กว่าปี ให้ทันสมัย ลดนโยบายที่ไม่จำเป็น
หลักสูตรเฉพาะท้องถิ่น: พัฒนาโมเดลการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น "ทะเลบ้านฉัน" ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เขียนขึ้นเองให้เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดตราด (เช่น เด็กที่ออกเรือไปช่วยพ่อแม่สามารถเรียนรู้จากกิจกรรมหาปลา หากุ้งได้) และได้รับรางวัลดีเยี่ยมอันดับ 1 ของประเทศ
ห้องเรียนโอกาส (สำหรับเด็กตกหล่น): เปิดโอกาสให้เด็กที่หลุดจากระบบและไม่ต้องการเรียนในระบบปกติ เข้ามาเรียนด้วยหลักสูตรเฉพาะบุคคล (IEP) โดยมีค่าสนับสนุนรายหัวให้โรงเรียน
การตีความ "ชั่วโมงเรียน": ย้ำว่า พ.ร.บ. ไม่ได้ระบุว่า "ชั่วโมงในห้องเรียน" ดังนั้น การเรียนรู้ที่ไหนก็ได้นับเป็นชั่วโมงเรียน
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตราด (โดย นางสาวเพ็ญนภา พรประสิทธิ์ - อุตสาหกรรมจังหวัดตราด):
ความต้องการคน: ต้องการปรับหลักสูตรให้เน้นวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดทักษะและเข้าสู่สังคม 4.0
การคิดนอกกรอบ: ให้อิสระกับเด็กในการคิดนอกกรอบ
วิชาเลือก: เสนอให้วิชาเลือกเสริมทักษะดิจิทัลและอาชีพ (เช่น การขายของออนไลน์) ตั้งแต่เด็ก
รูปแบบความร่วมมือ: สนับสนุนการพัฒนาแรงงานฝีมือแบบไตรภาคี (ประชาชน-ภาครัฐ-อุตสาหกรรม) เพื่อสร้างแรงจูงใจและโอกาสในการทำงาน เช่น โมเดลสถาบันไทย-เยอรมัน
ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดตราด (โดย นายประภาส ปีศาจ - ผู้อำนวยการ):
การจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น:
จัดการเรียนการสอนทั้งในสถานศึกษา
ปรับบ้านเป็นห้องเรียน โดยเปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู
จัดครูไปสอนที่บ้านร่วมกับผู้ปกครอง
จัดการเรียนรวมร่วมกับโรงเรียนปกติ โดยสนับสนุนสื่อและสิ่งอำนวยความสะดวก
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP): เขียนแผนรายบุคคลที่สามารถปรับใช้ในโรงเรียนต่างๆ ได้
การฝึกอาชีพ: มีการฝึกอาชีพและส่งต่อไปยังโรงเรียนเฉพาะความพิการหรือศูนย์พัฒนาฝีมือ
เครือข่าย: ประสานงานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อคัดกรองและพัฒนาเด็ก
โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญ วัดสุวรรณมงคล (โดย พระอาจารย์ณี - ผู้อำนวยการ):
การผสมผสานหลักสูตร: จัดการเรียนการสอนที่ผสมผสานหลักสูตรพระพุทธศาสนา (นักธรรม, บาลี) เข้ากับหลักสูตรสามัญศึกษา (ม.1-6) เพื่อให้สามเณรได้วุฒิการศึกษาตามปกติ
การเรียนรู้ในบริบท: สามเณรทั้งหมดอยู่ประจำที่วัด ต้องปฏิบัติตามกิจวัตรสงฆ์ รวมถึงจัดรายวิชาเสริมด้านงานช่างหรืองานเกษตรเบื้องต้น
ความท้าทาย: บริบททางสังคมและพระธรรมวินัยทำให้มีข้อจำกัดในการพาสามเณรไปเรียนรู้อาชีพนอกวัดในรูปแบบที่หลากหลายเหมือนเด็กทั่วไป
บ้านเรียน (Home School) ที่เกาะช้าง:
ผู้ปกครองเป็นผู้ออกแบบหลักสูตรเองอย่างเฉพาะบุคคล และประยุกต์การเรียนรู้จากชีวิตประจำวัน เช่น การทำอาหารเพื่อสอนคณิตศาสตร์
ศูนย์การเรียนรู้ตาลีมุดดิน (แหลมงอบ):
จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปฐมวัยถึง ป.6) โดยเน้นการเรียนรู้พื้นฐาน และเด็กมีความสามารถในการตอบคำถามและแสดงศักยภาพได้ดี เนื่องจากครูไม่ต้องรับนโยบายจากส่วนกลางมากนัก ทำให้เน้นการสอนเป็นหลัก
ภาระงานของครู: ครูมีภาระงานอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอนโดยตรง เช่น งานธุรการ งานพัสดุ งานการเงินและบัญชี ทำให้เสียเวลาในการสอนและพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้คุณภาพชีวิตครูยังไม่ดีนัก เช่น เรื่องเงินเดือนที่ไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจปัจจุบัน และสถานะของครู กศน. ที่เป็นพนักงานราชการขาดความมั่นคง
งบประมาณและทรัพยากรไม่เพียงพอ: การจัดการศึกษายังขาดแคลนงบประมาณสำหรับโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ Zero Drop Out รวมถึงโรงเรียนรัฐบาลขนาดเล็กที่ขาดความพร้อมด้านงบประมาณ บุคลากร และการจัดการ
ขาดการเชื่อมโยงและประสานงาน: การประสานงานและการส่งต่อเด็กนักเรียนระหว่างหน่วยงานและระดับชั้นต่างๆ ยังขาดความเชื่อมโยง ทำให้เกิด "รอยต่อ" เช่น เด็กจบประถมไม่สามารถไปต่อมัธยมได้ หรือเด็กพิเศษต้องกลับมาเรียนเตรียมความพร้อมซ้ำ
หลักสูตรไม่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการ:
หลักสูตรส่วนกลางของ สพฐ. ไม่เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดตราด ที่เน้นการเกษตรและการท่องเที่ยว
การพัฒนาคนไม่ตรงกับความต้องการของสังคมและภาคอุตสาหกรรม โดยขาดแคลนทักษะดิจิทัลและแรงงานฝีมือ
เด็กไม่สนใจเรียนสายอาชีพด้านช่างฝีมือ เนื่องจากมีกิจการส่วนตัวหรืออาชีพเกษตร/ท่องเที่ยวรองรับ
โรงเรียนไม่กล้าปรับเปลี่ยนหลักสูตร/วิธีการเรียนการสอนนอกกรอบ เพราะกลัวทำผิดระเบียบ
ปัญหาเด็กนอกระบบ/กลุ่มเปราะบาง:
จังหวัดตราดมีอัตราเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา (เด็กตกหล่น) สูงถึง 8.5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ
เด็กบางคนไม่มีความสนใจในการเรียนจริง ๆ ทำให้การจัดการเรียนรู้ไม่ได้ผล โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์หากไม่มีการกำกับติดตาม
สามเณรมีข้อจำกัดด้านบริบททางสังคมและพระธรรมวินัย ทำให้การเข้าถึงการเรียนรู้ด้านอาชีพนอกวัดทำได้ยาก และสังคมยังไม่เข้าใจบริบทการเรียนรู้ของสามเณร
ผู้ปกครองบางส่วนยังไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กพิเศษ และ กศน. ในจังหวัดตราดยังไม่มีหลักสูตรเฉพาะสำหรับเด็กพิการ
กฎหมายและนโยบาย: พ.ร.บ. การศึกษาที่ใช้มานานไม่ทันสมัยและไม่เอื้อต่อการจัดการศึกษาในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายจากส่วนกลางบางอย่างเป็นภาระและไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติในพื้นที่จริง